ของสะสมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความคลั่งไคล้ ความหลงใหล และความชื่นชอบ เริ่มตั้งแต่ของสะสมชิ้นเล็กธรรมดาที่มีคุณค่าทางจิตใจ ไปจนถึงของสะสมชิ้นใหญ่ที่สะสมเอาไว้เพื่อความเพลิดเพลิน แต่คุณทราบหรือไม่ว่ามีมหาเศรษฐีบางคนไม่ได้คิดแบบนั้น
มหาเศรษฐีมองของสะสมเป็นการลงทุนอย่างแท้จริง
ซึ่งเหตุผลที่ทำให้มหาเศรษฐีเลือกลงทุนกับของสะสม นอกจากจะเป็น ‘เครื่องแสดงสถานะ’ และความชอบส่วนตัวแล้ว มหาเศรษฐีบางคนยังเห็นของสะสมเป็นช่องทางในการกระจายรายได้ในการลงทุน ซึ่งพวกเขามองการณ์ไกลบวกกับการคาดการณ์ไปถึงอนาคตเลยว่า ในอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ข้างหน้า ของสะสมเหล่านี้อาจจะสร้างกำไรงาม ๆ ให้กับพวกเขาได้ และแน่นอนเลยว่าของสะสมพวกนี้จะไม่มีวันสร้างความขาดทุนเป็นแน่

นอกจากนี้มหาเศรษฐียังให้คำตอบ (อ้างอิง Post to day) เกี่ยวกับเหตุผลในการซื้อของสะสมไว้ว่า
ต้องการกระจายการลงทุน
- เศรษฐีทั่วโลกรู้ดีว่าการลงทุนที่ดีก็ไม่ควรใส่ทรัพย์สินไว้ในตะกร้าเดียวกัน ควรจะแบ่งการลงทุนออกไปหลาย ๆ ส่วน หากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดข้อผิดพลาด ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ส่วนเป็นเบาะรองรับความผิดพลาดนั้นไว้เพื่อไม่ให้นักลงทุนเจ็บตัว
ทรัพย์สินที่จับต้องได้
- ไม่ว่าจะเป็นแก้ว แหวน เงิน ทอง ก็ล้วนเป็นทรัพย์สินที่สามารถจับต้องได้จริง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับสินทรัพย์ทางการเงิน ของสะสมเหล่านี้นี่แหละที่จะแปรเปลี่ยนไปเป็นเงินสดได้
ให้ผลตอบแทนที่ดี
- เรื่องนี้เศรษฐีฝั่งยุโรปกว่า 43% ให้การการันตีมาเลยว่าเป็นความจริง เพราะมันให้ผลตอบแทนถึง 29% ซึ่งถือว่านี่เป็นตัวเลขที่ดีและควรค่าแก่การลงทุนของสะสม
เปิดรายชื่อของสะสมมีค่า ที่คนรวยลงทุนซื้อแบบไม่ลังเล
และทั้งหมดนี้คือรายของสะสมที่มีค่าทางจิตใจ และมีค่าทางด้านกำไรในอนาคต ที่เหล่าคนรวยมักซื้อสะสมไว้ (ไม่ได้เรียงตามราคาหรือความนิยม) มีดังนี้
งานศิลปะและของโบราณ

โดยเรื่องนี้มหาเศรษฐีหลายคนให้คำตอบว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าคาดเดาว่างานศิลปะ ภาพถ่าย ภาพวาด และของโบราณประเภทต่าง ๆ แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยลง แต่ก็ยังคงเป็นของสะสมที่ตลาดต้องการมากเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหลาย ๆ ครั้งที่มีการประมูลสิ่งเหล่านี้ ถึงได้มีราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แบบที่ไม่น่าเป็นไปได้เสมอ
รถหรู

รถหรู ซุปเปอร์คาร์ ไฮเปอร์คาร์ก็ยังคงเป็นของสะสมที่เป็นที่นิยมมาโดยตลอด ซึ่งคุณอาจจะได้เห็นการประมูลราคารถโบราณ แต่ถึงแม้ว่าในอนาคตคนจะเริ่มให้ความนิยมรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ที่เป็นของสะสมน้อยลงแล้ว แต่ก็ยังถือว่ายังไม่หล่นอันดับลงไปมากนัก
ไวน์

เศรษฐีทุกคนไม่ได้ชอบดื่มไวน์ พวกเขาเพียงแค่ซื้อไวน์สะสมเอาไว้เพื่อทำกำไรในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้เศรษฐีทางฝั่งแอฟริกาและละตินอเมริกาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะอย่าลืมไปว่าไวน์ชั้นดีจะรสชาติยอดเยี่ยมได้ ก็ต้องอาศัยการบ่มเป็นเวลานาน ยิ่งนานเท่าไหร่ราคาก็สูงลิ่วเท่านั้น
นาฬิกา

แค่ราคาต้นทุนที่ซื้อมาก็อยู่ในหลักแสน หลักล้านแล้ว หากบวกด้วยราคาความเก่าแก่และรสนิยมที่เรียบหรู ทำไมราคาที่ขายออกไปจะตกอันดับล่ะจริงไหม? ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนลองเก็งกำไรกันเล่น ๆ มันอาจมีโอกาสราคาเพิ่มขึ้นสูงถึง 67% เลยนะ
เครื่องประดับและเพชร

เครื่องประดับชิ้นสวยและเพชรเม็ดงามถือว่าเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่คนรวยมักเก็บเอาไว้เป็นสมบัติ เพราะมันสามารถนำมาใช้งานได้ หรือจะเอามาไว้เก็งกำไรเพื่อขายได้นั่นเอง แต่แน่นอนเลยว่าหากมีเงินสักก้อนแล้วต้องการลงทุนกับเครื่องประดับ การเลือกลงทุนกับทองคำคุณจะได้ค่าตอบแทนที่สวยกว่า
คงไม่ต้องแปลกใจเลยล่ะว่าทำไมคนรวยแล้วถึงรวยแล้วรวยอีก รวยจนถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีก็ยังคูณความรวยเข้าไปได้อีก เพราะดูจากรายชื่อของสะสมแต่ละอย่างสิ มันไม่ได้มีดีแค่ความสวยหรู ราคาแพง หรือความหายากเท่านั้น แต่มันยังเหมือนกองทุนที่สามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้อีกด้วย เบื่อชิ้นไหนก็ขายชิ้นนั้น หรือมีความจำเป็นก็แค่ขายมันออกไป ได้ทั้งความสบายใจ ได้กำไร ไม่ต้องต้องคอยเสี่ยงดวงสมัคร gclubแล้วกลัวว่าจะขาดทุนเลยล่ะ